FUJI S 100 FS กล้องร้อนแรงที่สุด 11.1 ล้านพิกเซล ซุปเปอร์ซูม มุมกว้าง 28-400 มม ปรับ ISO ได้ถึง 10000 ถ่าย Macro ได้ 1 ซม ด้านบนกล้องใส่ Flash เพิ่มได้ จอ LCD ปรับกางได้ ถ่ายภาพความเร็วสูง 7 ภาพ/วินาที มีระบบกันภาพสั่นไหว

                  กล้อง FUJI FINEPIX S 100 FS กล้องระดับ PRO SUMER ที่น่าจะเรียกว่าเหนือกว่า กล้อง
D-SLR รุ่นธรรมดา ความละเอียด 11.1 ล้านพิกเซล จอ LCD 2.5 นิ้วกางออกได้
มีระบบกันภาพสั่นไหว ไม่ต้องคอยง้อเลนส์ที่มีระบบกันสั้น ที่มีราคาแพง เหมือน CANON/NIKON

คุณสามารถนำ FLASH เสริมมาใส่เพื่มกำลังไฟ สำหรับถ่ายภาพที่ต้องการแสง FLASH ให้ได้ภาพ
ที่ดีกว่า เหมือนกล้อง D-SLR ที่ใส่ FLASH เพิ่มได้ เท่านั้นยังไม่พอ มีเลนส์ครอบจักรวาล
ที่เรียกว่า ตั่งแต่เลนส์มุมกว้าง 28 มม จนถึงระดับซูปเปอร์ซูม 400 มม ถ้าเป็นกล้อง D-SLR

เลนส์แบบนี้ คุณต้องมีอย่างน้อย ก็ 2-3 หมื่นบาทแล้วเฉพาะเลนส์ แต่นี้มีครบในตัวกล้อง ไม่ต้อง
ไปซื้อเพิ่ม กล้อง FUJI S 100 FS ตัวนี้ สภาพดี ทำงานปกติ มาชมและทดสอบการใช้งานก่อน
ตัดสินใจซื้อได้ รับรองไม่ผิดหวังในคุณภาพอย่างแน่นอน ราคาใหม่ ๆ ในห้างก็ร่วม 2 หมื่นบาทแล้ว

รายละเอียด ของกล้อง FUJI FINEPIX S 100 FS จากหนังสือชัดเดอร์โฟโต้ หนังสือที่ให้ความรู้

ฟูจิฟิล์ม ผู้ผลิตกล้องดิจิตอลรายใหญ่ ได้รุกตลาดกล้องดิจิตอลอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว กล้องดิจิตอลสายพันธุ์ใหม่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบทุกอย่างเทียบเท่ากล้องดิจิตอล SLR มาพร้อมกับเลนส์ซูมครอบจักรวาลขนาด 28-400 มม.! ปรับออโต้โฟกัสได้รวดเร็วใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอล

SLR ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 2/3 นิ้ว Super CCD HR VIII 11.1 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่มีคุณภาพสูง สามารถเลือกโหมดสีในการบันทึกภาพจำลองการถ่ายภาพได้เสมือนการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม PROVIA, VELVIA พร้อมฟังก์ชั่นปรับค่าไดนามิกเร้นจ์เพิ่มรายละเอียดให้กับภาพถ่ายได้กว้างถึง

400 % ความไวแสงสูงสุด ISO 10000 มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเลนส์ชิพท์ และฟังก์ชั่น ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูง 7 ภาพ/วินาที มีช่องมองภาพ EVF และจอ LCD ที่ปรับก้มเงยได้ รองรับเมมโมรี่การ์ด xD-picture Card และ SD/SDHC

ทั้งหมดอยู่ในตัวกล้องที่มีรูปทรงแบบเดียวกับกล้องดิจิตอล SLR ในชื่อรุ่น FinePix S100FS เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักถ่ายภาพที่ต้องการกล้องประสิทธิภาพสูงแบบตัวเดียวจบ ให้ความ สะดวกคล่องตัวในการถ่ายภาพทุกที่ทุกเวลา วางจำหน่ายในราคาสุดคุ้ม นับเป็นหนึ่งในกล้องดิจิตอล ที่คาดว่าจะมาแรง และได้รับความนิยมอย่างมากอีกรุ่นหนึ่งในปี

Extended Dynamic Range คือคุณสมบัติเด่นลำดับแรก ของกล้องฟูจิฟิล์ม FinePix S100FS ที่ต้องกล่าวถึง โดยสามารถปรับเพิ่มค่าไดนามิกเร้นจ์ได้ ทำให้ภาพมีรายละเอียดมากขึ้น ทั้งในโทนสว่างและโทนมืด ซึ่งในการบันทึกภาพธรรมชาติทั่วๆ ไปนั้น ภาพจะมีความแตกต่างของแสงมาก

ตั้งแต่ส่วนสว่างไปจนถึงส่วนมืด หากเป็นฟิล์มเนกาตีฟที่มีค่า ไดนามิกเร้นจ์กว้าง จะสามารถบันทึกภาพ ให้ได้รายละเอียดอย่างครบถ้วน แต่สำหรับกล้องดิจิตอลนับว่า FinePix S100FS เป็นกล้องตัวแรก ที่สามารถปรับค่าไดนามิกเร้นจ์ให้กว้างมากขึ้นจาก 100% , 200% และ 400% ให้ภาพที่ใกล้เคียงกับการใช้ฟิล์มเนกาตีฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้กล้องดิจิตอล ต้องการมากที่สุด โดยใช้เซ็นเซอร์ภาพ

ที่ออกแบบใหม่ขนาด 2/3 นิ้ว Super CCD HR VIII ความละเอียดสูงสุดถึง 11.1 ล้านพิกเซล และใช้หน่วยประมวลผลภาพ ใหม่ RP (Real Photo ) ProcessorIII ให้ภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยม สำหรับการบันทึกภาพทิวทัศน์และภาพบุคคล

Film Simulation คือคุณสมบัติที่โดดเด่นมากอีกอย่างหนึ่ง ของกล้องรุ่นนี้ สามารถจำลองรูปแบบการบันทึกภาพ ได้เหมือนกับการใช้ฟิล์มโปรสไลด์สี ของฟูจิฟิล์มที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ทั้งกลุ่มนักถ่ายภาพมือสมัครเล่นและมืออาชีพ เลือกใช้งานได้ 4 แบบคือ PROVIA สำหรับถ่ายภาพ

ทั่วๆ ไป, Velvia สำหรับถ่ายภาพทิวทัศน์และธรรมชาติ ที่ต้องการสีสันสดใสเป็นพิเศษ, ASTIA (Soft) ให้ภาพที่ดูนุ่มนวลทั้งโทนสีและคอนทราสท์ สุดท้ายคือ Portrait เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคคลโดยให้สีผิวที่ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมีระบบถ่ายภาพคร่อมอัตโนมัติที่เลือกใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ป้องกันปัญหาเรื่องความผิดพลาดได้เป็นอย่างดี เพียงกดปุ่มชัตเตอร์ บันทึกภาพครั้งเดียว ก็จะได้รูปแบบของการบันทึกจำลองจากฟิล์ม 3 ชนิดได้พร้อมๆ กันคือ PROVIA, Velvia, ASTIA และเลือกภาพที่คุณชอบมากที่สุดเก็บเอาไว้ และยังเลือกถ่ายภาพคร่อมไดนามิกเร้นจ์ที่แตกต่างกัน 3 ระดับได้ด้วยคือ 100%, 200% และ 400% ส่วนการถ่ายภาพคร่อมนั้นเลือกค่าแสงที่แตกต่างกันได้ +/- 1 สตอป

สำหรับการบันทึกภาพที่ต้องการความรวดเร็วและได้ภาพคุณภาพดี สามารถใช้โปรแกรมสำเร็จรูปซึ่งออกแบบเป็น 2 กลุ่ม ซึ่งจะปรับโหมดสีให้เหมาะสมอัตโนมัติ โดยปรับเลือกจากแป้นหมุนเลือกโหมดบันทึกภาพ เริ่มจาก SP1 สำหรับเลือกโปรแกรมถ่ายภาพทิวทัศน์ทั่วไป, ทิวทัศน์ที่ต้องการให้ดูนุ่มนวล, ทิวทัศน์ที่เน้นสีสดใสเป็นพิเศษ และภาพดอกไม้

อีกโหมดหนึ่งคือ SP2 เป็นโปรแกรมถ่ายภาพบุคคลทั่วๆ ไป, ภาพบุคคลที่ต้องการให้ได้ท้องฟ้าสีสดใสและสีผิวที่ดูนุ่มนวล, ภาพเด็ก, ภาพบุคคลที่เน้นสีผิวแบบนุ่มนวล, ภาพทิวทัศน์กลางคืน, พระอาทิตย์ตก, หิมะ, ชายหาด, กีฬา และพลุ/ดอกไม้ไฟ

เลนส์คุณภาพสูง FUJINON 28-400 มม.
FinePix S100FS มาพร้อมกับเลนส์ FUJINON Pro ใหม่ที่มีคุณภาพสูงเป็นพิเศษ ออกแบบมาสำหรับเซ็นเซอร์ภาพขนาดใหญ่ 2/3 นิ้ว 11.1 ล้านพิกเซลแบบ Super CCD ตัวเลนส์จึงมีขนาดใหญ่กว่ากล้องคอมแพคทั่วๆ ไป โดยมีขนาดฟิลเตอร์ด้านหน้า 67 มม. ดูเหมือนกับเลนส์ของกล้อง

ดิจิตอล SLR มีกำลังขยายสูง 14.3 เท่า ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบ ตั้งแต่ช่วงมุมกว้าง 28 มม. ไปจนถึงเทเลโฟโต้ทางยาวโฟกัสสูง 400 มม. และ โหมดซุปเปอร์มาโครที่ถ่ายภาพใกล้สุดเพียง 1 เซ็นติเมตรเท่านั้น (ที่ช่วงซูมมุมกว้าง) ปรับซูมเลนส์แบบแมนนวลด้วยวงแหวนหมุนที่กระบอกเลนส์ สามารถซูมได้แม่นยำและรวดเร็ว

เลนส์ FUJINON 28-400 มม. ประกอบด้วยโครงสร้างเลนส์ 13 ชิ้น แบ่งเป็น 10 กลุ่ม มีชิ้นเลนส์พิเศษลดความคลาดสี และลดความบิดเบือนของภาพ เคลือบผิวเลนส์แบบหลายชั้น ให้ภาพ ที่ใสเคลียร์ คมชัด และถ่ายทอดสีสันได้สวยงามถูกต้องตามธรรมชาติ และยังมีชิ้นเลนส์ ที่ปรับชิพท์

เคลื่อนที่ตามการสั่นไหวอัตโนมัติ ทำให้ภาพถ่ายของคุณคมชัด แม้ว่ามือจะสั่นในขณะถ่ายภาพ หรือใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่าปกติถึง 3 สตอปโดยไม่ใช้ขาตั้งกล้อง เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการถ่ายภาพในช่วงเลนส์เทเลโฟโต้ที่มีกำลังขยายสูงเช่น 300 หรือ 400 มม. นอกจากนี้การออกแบบเลนส์ซูมติดกับตัวกล้อง ถอดเปลี่ยนไม่ได้ ทำให้หมดปัญหาเรื่องฝุ่น ที่หน้าเซ็นเซอร์ภาพ ซึ่งเป็นปัญหาของกล้องดิจิตอล SLR ทั่วๆ ไป

เลนส์คุณภาพสูง FUJINON 28-400 มม.
เซ็นเซอร์ภาพใหม่ Super CCD HR VIII ฟูจิฟิล์ม FinePix S100FS ใช้เลนส์ซูมกำลังขยายสูง ชุดเซ็นเซอร์รับภาพจึงมีการออกแบบใหม่ให้เหมาะสมกับขนาดเลนส์ โดยใช้เซ็นเซอร์รับภาพใหม่ Super CCD HR VIII ขนาดใหญ่ 2/3 นิ้ว ให้ความละเอียดสูงถึง 11.1 ล้านพิกเซล ให้ภาพที่ดีเยี่ยม

ในทุกช่วงทางยาวโฟกัส และยังมีความไวแสงสูง มี Noise ต่ำมาก ทำให้ภาพที่ได้ใสเคลียร์ และชัดเจนแม้ว่าจะใช้ความไวแสงสูง อีกทั้งยังมีค่าไดนามิกเร้นจ์กว้าง บันทึกทุกรายละเอียด ของภาพตั้งแต่โทนมืดจนถึงโทนสว่างได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ส่วนหนึ่ง เป็นผลมาจากการใช้หน่วยประมวลผลใหม่ RP (Real Photo) Processor ใช้ชุดแปลงสัญญานอนาล็อกเป็นดิจิตอล A/D

converter ถึง 2 ชุด แสดงสีได้มากถึง 14 บิต และปรับลด Noise ด้วยระบบ Double noise reduction system สามารถใช้ความไวแสงสูง ISO 3200 โดยที่มี Noise ต่ำมาก หรือจะเพิ่มความไวแสงให้สูงสุดถึง ISO 10000 ก็ได้ (ที่ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล) สำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงที่น้อยมาก หรือต้องการความเร็วชัตเตอร์สูงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว (สูงสุด 1/4000 วินาที)

High-speed Continuous Shooting
สำหรับการบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คุณสามารถใช้กล้อง FinePix S100FS บันทึกภาพไว้ได้อย่างทันท่วงที ด้วยความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง 3 ภาพ/วินาที ที่ความละเอียดสูงสุด 11.1 ล้านพิกเซล และต่อเนื่องรวดเดียว 7 ภาพที่ฟอร์แมท JPEG หรือต่อเนื่อง 3 ภาพที่ฟอร์แมท CCD-RAW หรือความเร็วสูงเป็นพิเศษ 7 ภาพ/วินาทีเมื่อบันทึกที่ความละเอียด 3 ล้าน พิกเซล (บันทึกต่อเนื่องได้รวดเดียว 50 ภาพ)

Electronic Viewfinder (EVF)
คุณสามารถใช้กล้อง FinePix S100FS ได้เหมือนกับกล้องดิจิตอล SLR โดยการดูภาพ จากช่องมองภาพ แบบอิเล็กทรอนิกส์ วิวฟายเดอร์ (EVF) ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ แสดงสีได้อย่างสวยงาม และชัดเจนเหมือนกับการมองภาพตรงผ่านเลนส์ของกล้อง D-SLR โดยมีขนาดภาพ 0.2 นิ้ว

ความละเอียด 200,000 พิกเซล แสดงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างครบถ้วนเหมือนกับที่แสดงบนจอมอนิเตอร์ LCD และเลือกดูภาพสลับไปมาระหว่างช่องมองกับจอมอนิเตอร์ได้เพียงกดปุ่ม EVF/LCD ทางด้านหลัง

Multi-angle LCD
จอมอนิเตอร์ LCD ขนาด 2.5 นิ้ว ความละเอียด 230,000 พิกเซล นอกจากแสดงภาพได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังสามารถปรับเงยขึ้นได้ 90 องศา และถึงออกมาพร้อมกับปรับก้มลงได้ 45 องศา ทำให้ดูภาพได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นมุมต่ำหรือมุมสูง เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับการถ่ายภาพในมุมมองพิเศษที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น

ระบบออโต้โฟกัสความเร็วสูง
กล้องดิจิตอลคอมแพดส่วนใหญ่จะสู้กล้องดิจิตอล SLR ไม่ได้ในเรื่องของระบบออโต้โฟกัส แต่ไม่ใช่กล้องฟูจิฟิล์ม FinePix S100FS ซึ่งออกแบบให้ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้อย่างรวดเร็วทันใจ เลือกโหมดโฟกัสได้ 4 แบบคือ ออโต้โฟกัสทีละภาพ, โฟกัสต่อเนื่อง, แมนนวลโฟกัส และวันพุ

ชออโต้โฟกัส (สำหรับโหมดแมนนวลโฟกัส) และยังใช้งานได้ดีแม้ว่าจะถ่ายภาพในที่มืดหรือแสงน้อย โดยมีไฟช่วยหาโฟกัสทำงานอัตโนมัติ

ทางด้านความรวดเร็วในการบันทึกภาพทำได้ดีมากเช่นกัน มีช่วงเวลาการลั่นชัตเตอร์สั้นมากเพียง 0.01 วินาที ทำให้บันทึกภาพสิ่งเคลื่อนไหวต่างๆ ได้อย่างไม่ผิดพลาด และยังมีช่วงความเร็วชัตเตอร์ที่กว้างเหมือนกล้องดิจิตอล SLR ทั่วๆ ไปคือ 30 วินาที จนถึงสูงสุด 1/4000 วินาที ส่วนเลนส์ที่ใช้มีรูรับแสงกว้างสุดถึง F2.8 และแคบสุด F11 ปรับละเอียดได้ขั้นละ 1/3EV

หากต้องการบันทึกภาพที่เน้นคุณภาพสูงสุด และเพื่อการปรับแต่งภาพในภายหลัง สามารถเลือกบันทึกในฟอร์แมท CCD-RAW ได้ โดยกล้องจะบันทึกภาพโดยที่ยังไม่มีการประมวลผล จากนั้นเปิดไฟล์ภาพด้วยซอฟท์แวร์ของฟูจิฟิล์ม FinePix Studio เพื่อปรับแต่งภาพตามที่ต้องการ อาทิ โทนภาพ สี ไวท์บาลานซ์ และอื่นๆ

การบันทึกภาพเคลื่อนไหว ให้ภาพคุณภาพดีเช่นเดียวกับการใช้กล้องวิดีโอทั่วๆ ไป โดยบันทึกที่ขนาด VGA 640 x 480 พิกเซล ที่ความเร็ว 30 เฟรม/วินาที หรือจะเลือกที่ขนาดเล็กลงคือ 320 x 240 พิกเซลก็ได้ และระหว่างการบันทึกวิดีโอสามารถปรับซูมเลนส์ได้ตามปกติ โดยระบบออโต้โฟกัสจะปรับภาพให้คมชัดอยู่เสมอ

สำหรับเลนส์ซูมทางด้านหน้ามีขนาดพอๆ กับเลนส์ของกล้องดิจิตอล SLR ทั่วๆ ไป โดยมีวงแหวนหมุนปรับซูมขนาดใหญ่ หุ้มด้วยหนังลายหยาบ ปรับซูมเลนส์ได้อย่างแม่นยำ มีตัวเลขบอกทางยาวโฟกัสของเลนส์ในช่วงต่างๆ ตั้งแต่ 28 จนถึง 400 มม. (เทียบได้กับเลนส์ทางยาวโฟกัสเดี่ยวของกล้องฟิล์ม 35 มม. ถึง 8 ตัว) และด้านในสุดเป็นวงแหวนสำหรับใช้ปรับโฟกัสเองในโหมดแมนนวลโฟกัส

ทางด้านขวาของแป้นหมุนเลือกโหมดบันทึกภาพ เป็นแป้นหมุนวงกลมใช้เลือกฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ รวมไปถึงการเลือกความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง และความไวแสง เป็นต้น ถัดขึ้นไปเป็นปุ่ม ISO และปุ่มชดเชยแสง (ใช้เป็นปุ่ม Info สำหรับดูข้อมูลต่างๆ)

ส่วนบนเป็นแฟลชป๊อปอัพ มีปุ่มเปิดแฟลชอยู่ทางด้านข้าง ทำงานอัตโนมัติร่วมกับระบบออโต้ความไวแสง หากใช้ ISO 800 จะใช้แฟลชถ่ายภาพได้ไกลประมาณ 7 เมตร พร้อมด้วยระบบแฟลชแก้ตาแดง แฟลชลบเงา ปิดแฟลชและเปิดแฟลช ด้านบนยังมีฮอทชูสำหรับใช้ร่วมกับแฟลชภายนอก ใช้ได้กับแฟลชทุกยี่ห้อในระบบออโต้แฟลชและแมนนวล หรือถ้าต้องการใช้กับ แฟลชสตูดิโอก็มีช่องต่อสายซิงค์แฟลชแบบ PC อยู่ทางด้านหน้า

ด้านซ้ายของตัวกล้องมีสวิตช์หมุนเลือกโหมดโฟกัส 3 ตำแหน่งคือ C ออโต้โฟกัสต่อเนื่อง, S ออโต้โฟกัสทีละภาพ และ M แมนนวลโฟกัส โดยมีวงแหวนสำหรับหมุนปรับโฟกัสอยู่ที่กระบอกเลนส์ด้านใน ที่พิเศษคือ ในระบบแมนนวลโฟกัสสามารถใช้ระบบออโต้โฟกัสได้ทันทีเพียงกดปุ่มที่อยู่ตรง

กลางของแป้นหมุนเลือกระบบโฟกัส ถัดขึ้นไปเป็นปุ่มเลือกใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว และปุ่มถ่ายภาพต่อเนื่องแบบต่างๆ สำหรับช่องต่อเชื่อมภายนอกมีฝาครอบยางปิดทับเอาไว้ ภายในมีช่องต่อไฟ DC ภายนอก ช่อง A/V Out สำหรับเปิดชมภาพจากโทรทัศน์ และช่อง USB 2.0 High speed

สำหรับต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์หรือพริ้นเตอร์ รวมทั้งใช้เป็นช่องสำหรับต่อกับสายลั่นชัตเตอร์ด้วย ส่วนด้านขวาของตัวกล้องมีบานพับขนาดเล็ก ภายในเป็นช่องใส่เมมโมรี่การ์ดซึ่งเลือกใช้ได้ 2 แบบคือ xD-picture Card (ปัจจบันความจุสูงสุด 2GB) หรือ SD/SDHC ที่มีความจุมากถึง 32GB ในปัจจุบัน ทำให้ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอได้นานเท่าที่ต้องการ

ทางด้านหลังมีจอมอนิเตอร์ LCD ขนาด 2.5 นิ้ว ออกแบบจอลักษณะเป็นบานพับ ดึงออกมาได้สองจังหวะ จะถึงเฉพาะจอเงยขึ้นได้ 90 องศา หากดึงอีกส่วนที่อยู่ด้านในออกมาจะอยู่ในมุมเฉียง 45 องศา เหมาะสำหรับถ่ายภาพมุมต่ำ และถ้าพับจอเข้าไปจะทำให้มองดูภาพได้ชัดเจนเมื่อใช้ถ่ายภาพในมุมสูง หรือถ้าพับเงยขึ้น 90 องศา จะดูภาพจากทางด้านข้างในแนวตั้งได้ด้วย การออกแบบดูแข็งแรงบึกบึนมากทีเดียว

ด้านขวาของจอมอนิเตอร์ LCD มีวงแหวนหมุนเลือกระบบวัดแสงซึ่งเลือกใช้งานได้ 3 แบบ พร้อมปุ่มกดล๊อคความจำแสง AE-L อยู่ตรงกลาง และใช้เป็นปุ่มลบภาพในโหมดเปิดชมภาพ ถัดลงไปเป็นปุ่ม EVF/LCD ใช้เลือกดูภาพสลับไปมาระหว่างจากช่องมอง EVF และที่จอ LCD ด้านล่างสุดเป็นปุ่ม

DISP/BACK สำหรับดูข้อมูลต่างๆ และใช้ย้อนกลับในการเลือกเมนู ถัดไปทางขวาเป็นปุ่มกด 4 ทิศทางและปุ่มตอบตกลงตรงกลาง ใช้เลือกเมนู ซูมขยายภาพ เลื่อนภาพ และเลือกใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ซึ่งใช้งานได้รวดเร็วดีมาก

การแสดงผลบนจอ LCD
เมื่อเปิดสวิตช์กล้องหากไม่มีเมมโมรี่การ์ดจะมีข้อความเตือนบนจอ LCD ว่าจะบันทึกภาพลงในเมมโมรี่ที่มีอยู่ในตัวกล้อง และเมื่อเปิดฝาครอบช่องใส่แบตเตอรี่ กล้องจะปิดสวิตช์อัตโนมัติ ต้องเปิดสวิตช์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง และบนจอ LCD จะแสดงภาพให้เห็นแบบ Live View โดยแสดงโหมดบันทึก

ภาพ ระบบโฟกัส ความละเอียดของไฟล์ภาพ จำนวนภาพที่ถ่ายต่อได้ ความไวแสง และอื่นๆ ที่มีการปรับตั้งเอาไว้เช่น การถ่ายภาพต่อเนื่อง การใช้ระบบป้องกันภาพสั่นไหว เป็นต้น ส่วนตรงกลางจะแสดงพื้นที่โฟกัสในโหมดต่างๆ คือ โฟกัสแบบต่อเนื่อง ทีละภาพ หรือปรับโฟกัสเองแบบแมนนวล

บนตัวกล้องมีปุ่มเลือกฟังก์ชั่นต่างๆ เช่น ISO, ชดเชยแสง, ระบบโฟกัสค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ, โหมดมาโคร, โหมดถ่ายภาพหน่วงเวลา และโหมดแฟลช เมื่อกดปุ่มเลือกฟังก์ชั่นจะแสดงผลให้ทราบบนจอ LCD ปรับเลือกค่าที่ต้องการด้วยแป้นหมุนวงกลมทางด้านบน ในการเลือกโหมดบันทึกภาพ แบบต่างๆ โดยใช้แป้นหมุนวงกลมทางด้านบนนั้น ที่จอ LCD จะแสดงเป็นภาพกราฟฟิกขนาดใหญ่ ทำให้ทราบถึงโหมดที่เลือกเอาไว้โดยไม่ต้องพลิกกล้องลงมาดู

ทางที่อยู่ทางด้านหลัง แบ่งเมนูออกเป็นหน้าหลัก 3 กลุ่ม เริ่ม จากเมนู Film Simulation สำหรับ เลือกการจำลองภาพให้เหมือนกับการใช้ฟิล์มแบบต่างๆ เลือกใช้งานได้ 4 แบบคือ PROVIA, Velvia, ASTIA (Soft) และ Portrait ถัดไปเป็นการเลือกปรับตั้งไดนามิกเร้นจ์แบบออโต้ หรือเลือกเอง 100-400%, เลือกความละเอียดตั้งแต่ 11 - 0.3 ล้านพิกเซล, เลือกโทนสี, ความคมชัด

เมนูปรับไวท์บาลานซ์แบบออโต้หรือเลือกเองตามสภาพแสงแบบต่างๆ ซึ่งจะแสดงผลให้เห็นทันทีบนจอ LCD และยังเลือกปรับไวท์บาลานซ์แบบละเอียดได้อีก +/- 3 ระดับ ถัดไปเป็นเมนูถ่ายภาพคร่อมทั้งแสงต่อเนื่อง และแสงแฟลช หากต้องการใช้แฟลชภายนอกต้องปรับเมนูเลือกใช้แฟลชภายนอกเสียก่อน เป็นต้น สำหรับการปรับตั้งต่างๆ สามารถบันทึกเก็บเอาไว้ได้ 2 ตำแหน่งคือ C1 และ C2 สามารถเรียกมาใช้งาน ได้ทันทีโดยปรับหมุนจากแป้นหมุนเลือกโหมดบนตัวกล้อง ทำให้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

เมนูสุดท้ายคือ Set-up ใช้สำหรับปรับตั้งค่าต่างๆ แบบละเอียด ปรับใช้งานได้หลายอย่าง ที่น่าสนใจเช่น เลือกระบบป้องกันภาพสั่นไหวเฉพาะขณะที่กำลังถ่ายภาพ หรือแบบต่อเนื่อง เปิดปิดไฟช่วยหาโฟกัส เลือกใช้ฟอร์แมท CCD-RAW เลือกโหมดการแสดงภาพบนจอ LCD ที่ความเร็ว 60 fps เลือก

ล๊อคความจำแสง 2 ระดับ เปิดปิดเสียงการทำงาน ปรับความสว่างของจอ LCD ฟอร์แมทเมมโมรี่การ์ด เลือกการแสดงเมนูเป็นภาษาต่างๆ ตั้งเวลาปิดกล้องอัตโนมัติ แสดงเส้นตารางบนจอภาพ เลือกโหมดวิดีโอ และสุดท้ายคือ รีเซ็ทค่าต่างๆ ที่ปรับตั้งเอาไว้ให้กลับสู่มาตรฐานเดิม

ในโหมดเปิดชมภาพ เมื่อกดปุ่มเมนู จะมีเมนูสำหรับใช้งานแบบต่างๆ เช่น การลบภาพ เลือกได้ว่าจะลบทีละภาพหรือลบทั้งหมด การแสดงภาพแบบสไลด์โชว์ทีละภาพ แบบเลือกเข้าออก หรือแสดงหลายๆ ภาพสลับไปมา โดยการเล่นภาพนี้จะเล่นต่อเนื่องได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ และเลือกแสดง

เป็นภาพเล็กได้ทีละ 6, 9 หรือ 100 ภาพ ทำให้การค้นหาภาพเป็นไปอย่างรวดเร็ว เมนูการเล่นภาพอื่นๆ ที่น่าสนใจเช่น แก้ตาแดง ปรับหมุนภาพ ก๊อปปี้ภาพ บันทึกเสียงลงในภาพ (เปิดฟังได้จากลำโพงในตัวกล้อง) การตัดส่วนภาพ และการสั่งพิมพ์ภาพ